พระหัวเราะ (Laughing Buddha) พระที่มีความสุขอยู่เสมอ

 |  โบราณคดี และประวัติศาสตร์
ผู้เข้าชม : 2184

พระหัวเราะ (Laughing Buddha) พระที่มีความสุขอยู่เสมอ

  

หน้ากาก “พระหัวเราะ” จัดแสดงที่นิทรรศการหน้ากากมนุษย์ ชั้น 2

ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)

           เมื่อพบว่าในบรรดาหน้ากากมากมายที่จัดแสดงอยู่บนแผงนิทรรศการเรื่อง “หน้ากากมนุษย์”1  มีหน้ากากอยู่ชุดหนึ่งที่ไม่ได้สวยงามอะไร เป็นหน้ากากชายชราใบหน้าเหี่ยวย่น ศีรษะโล้น ไม่มีเครื่องประดับ แต่อาการหัวเราะที่ก่อให้เกิดริ้วรอยทั่วใบหน้านั้นกลับชวนให้ผู้พบเห็นอยากหัวเราะไปด้วยเสียอย่างนั้น ทำให้ผู้เขียนเกิดความสนใจใคร่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับหน้ากากเหล่านี้ขึ้นมา ในเบื้องต้น เมื่อมาพิจารณาที่หน้ากาก ด้วยรูปลักษณ์ของชายที่ศีรษะโล้นเกลี้ยง ไร้หนวด ไร้ผม พอจะสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นหน้ากากรูปพระภิกษุในพุทธศาสนา หากแต่อาการหัวเราะนั้นไม่คุ้นตาและยังเป็นที่น่าสงสัย พระหัวเราะได้หรือไม่? เมื่อค้นหาคำตอบในพจนานุกรมพุทธศาสตร์จึงพบข้อมูลที่ได้ระบุไว้ เมื่อมีผู้ถามว่า

“ได้ทราบมาว่า พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ไม่มีการหัวเราะมีแต่ยิ้มแย้มเท่านั้น พระภิกษุควรจะหัวเราะหรือไม่?”

           พระพุทธองค์ได้มีพระดำรัสตอบว่า

“..... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การขับร้องคือการร้องไห้ในวินัยของพระอริยเจ้า การฟ้อนรำคือความเป็นบ้าในวินัยของพระอริยเจ้า การหัวเราะจนเห็นฟันพร่ำเพรื่อคือความเป็นเด็กในวินัยของพระอริยเจ้า เพราะเหตุนั้น และจงละเสียโดยเด็ดขาดในการขับร้องฟ้อนรำ เมื่อท่านทั้งหลายเบิกบานในธรรม ก็ควรแต่เพียงยิ้มแย้ม”

           เมื่อเห็นคำตอบเช่นนี้ “พระหัวเราะ” ก็น่าจะเป็นอาการที่แปลกผิดธรรมดา นอกขนบ อย่างมีนัยสำคัญ

           มีคำที่ใช้เรียกพระที่มีอาการหัวเราะแบบนี้ในภาษาอังกฤษหลายคำ ได้แก่ Laughing Buddha, Happy Buddha, Smiling Buddha ซึ่งเมื่อเลือกใช้คำที่แปลเป็นภาษาไทยแล้วก็อาจจะฟังแปลกๆ ไม่คุ้นหู ผู้เขียนเลือกใช้คำว่า “พระหัวเราะ” ซึ่งเป็นคำกลาง ๆ เพราะเห็นว่าจริง ๆ แล้วคือท่าน “หัวเราะ” ไม่ใช่แค่ “ยิ้ม” ทั้งนี้ทั้งนั้นอาการหัวเราะของคนเรานั้นมีหลายระดับ ทั้งหัวเราะเสียงดัง หัวเราะปากกว้าง หัวเราะเบา ๆ หัวเราะมุมปาก หรือแม้แต่หัวเราะในลำคอ


รู้จักพระบูได

           เมื่อเราทราบกันแล้วว่าอาการของพระที่หัวเราะนั้นค่อนข้างจะแปลก ในศาสนาพุทธเถรวาทก็ไม่ปรากฏการเอ่ยถึงกรณีพระหัวเราะนี้ เราจึงสืบค้นเรื่องราวของพระในพุทธศาสนานิกายอื่น ๆ และพบว่า มีพระหัวเราะปรากฏอยู่ที่จีน เป็นคนที่มีตัวตนจริง ๆ ชื่อว่า “พระบูได” (จีน: 布袋; พินอิน: Bùdài; เกาหลี: 포대, โรมัน: Podae; ญี่ปุ่น: 布袋, โรมัน: Hotei; เวียดนาม: Bố Đại)

           พระบูได เป็นพระชาวจีน ได้รับการนับถือว่าเป็นพระศรีอาริยเมตไตรยในศาสนาพุทธนิกายฉาน (หรือ นิกายเซนในญี่ปุ่น) ไม่แต่ในประเทศจีนเท่านั้น ท่านยังได้รับความเคารพนับถือในประเทศเวียดนาม เกาหลี และญี่ปุ่นอีกด้วย ว่ากันว่าท่านมีชีวิตอยู่ประมาณช่วงศตวรรษที่ 10 ในอาณาจักรหวู่เยว่ (Wuyue) นามของท่านมีความหมายตามตัวอักษรว่า "กระสอบผ้า” และหมายถึงกระเป๋าที่ท่านถือติดมือในขณะที่ท่านเดินเตร็ดเตร่อย่างไร้จุดหมาย ด้วยลักษณะที่ร่าเริง บุคลิกที่ตลกขบขัน และวิถีชีวิตที่แปลกประหลาดของท่านทำให้ท่านแตกต่างจากปรมาจารย์หรือบุคคลสำคัญทางพุทธศาสนาส่วนใหญ่ ท่านมักจะมีรอยยิ้มหรือหัวเราะอยู่เสมอ ดังนั้นชื่อเล่นของท่านในภาษาจีนคือ "พระหัวเราะ” ท่านมักถูกมองว่าเป็นคนอ้วนและมีความสุขกับการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “พระอ้วน” (Fat Buddha)


ปรัชญาจากพระหัวเราะ

           “พระหัวเราะ” กลายเป็นชื่อที่ถูกเรียกแทนที่ชื่อของ “พระบูได” เนื่องจากท่านมีความแตกต่างจากพระภิกษุรูปอื่น ๆ ท่านเป็นคนร่าเริง มักจะหัวเราะอย่างสุดใจ ตามตำนานหนึ่ง กล่าวถึงถุงที่ท่านถือว่าที่เต็มไปด้วยลูกกวาดซึ่งท่านจะแจกทุกครั้งที่พบกับเด็ก ๆ และเตือนให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ท่านจึงเป็นที่รักของทุกคน

           อีกทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่าเดิมทีท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์หรือเทพเจ้าแห่งความเจริญรุ่งเรือง ท้องกลม ๆ ของท่านเป็นสัญลักษณ์ของการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อศาสนาพุทธเผยแผ่จากประเทศอินเดียเข้ามาถึงประเทศจีนแล้ว ผู้คนในท้องถิ่นจึงได้ยอมรับพระองค์ว่าเป็นนักบุญทั้งยังเชื่อว่าเป็นการปรากฎตัวของพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งก็คือพระพุทธเจ้าในอนาคต และเป็นองค์สุดท้ายที่จะนำความรักและการตรัสรู้มาสู่โลก ในญี่ปุ่นท่านเป็นที่รู้จักในชื่อโฮเตอิ (Hotei) และถือเป็นหนึ่งในเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด

           พระหัวเราะไม่ได้ถูกบูชากราบไหว้อย่างพระทั่วไป ท่านดำรงอยู่เพื่อความเจริญรุ่งเรืองและความโชคดี เจตนาหลักของพระหัวเราะคือการเตือนใจให้ยิ้ม มีความสุข พึงพอใจกับชีวิต ทัศนคติที่ดีนี้จะทำให้ผู้คนได้รับพรแห่งความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น การหัวเราะทำให้ท้องโล่ง พระหัวเราะทำให้ทุกคนยิ้มได้ทุกที่ที่ท่านไป พระท่านเตือนให้เราสำนึกบุญคุณในสิ่งที่เรามี มีความสุขเมื่อเผชิญกับอุปสรรค และเติบโตต่อไปเพื่อไปสู่ความสุขสูงสุดและการตรัสรู้

 

ข้อมูลอ้างอิง

84000.org. พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์. จาก. https://84000.org/true/172.html

Michele Fulton. Who Was Laughing Buddha? จาก. https://www.beinghappybuddha.com/blogs/insights/who-was-laughing-buddha

Wikipedia. Budai. จาก. https://en.wikipedia.org/wiki/Budai


1  นิทรรศการเรื่อง “หน้ากากมนุษย์” จัดแสดงที่โถงรับแขกชั้น 1 และชั้น 2 ของศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)


ผู้เขียน

นวพรรณ ภัทรมูล

นักวิชาการคลังข้อมูล ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)


 

ป้ายกำกับ พระหัวเราะ Laughing Buddha นวพรรณ ภัทรมูล

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Share
Facebook Messenger Icon คลิกที่นี่เพื่อสนทนา