สายน้ำ ไหล(ไร้) เสรีภาพ
การนั่งเรือช้าจากเมืองห้วยทรายไปหลวงพระบางคือแผนการเดินทางเงียบ ๆ ของข้าพเจ้ากับตัวเอง เพื่อที่จะได้ใช้เวลาสำรวจการเต้นของชีพจรตัวเองกับการไหลของน้ำโขงที่เป็นอิสระ 300 กิโลเมตรสุดท้าย
ชีพจรจะเต้นได้เลือดก็ต้องไหลเวียน แต่เมื่อเกิดการอุดกั้นที่ใดที่หนึ่งจะต้องทำการรักษาไม่ว่าจะให้ยาหรือผ่าตัด เลือดไหลเวียนเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต สายน้ำโขงก็เช่นกันไม่ต่าง เขื่อนกำลังสร้าง น้ำโขงกำลังจะโดนหั่นและอุดกั้นวิถีการไหลอีกครั้ง ผู้คนริมน้ำวิถีจะเปลี่ยนไปในทิศใด นิเวศริมน้ำโขงยังจะเป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยให้สิ่งมีชีวิตอยู่ได้ไหมเมื่อวิถีของสายน้ำกำลังจะเปลี่ยนไป
ภาพที่ 1 น้ำโขง ณ เมืองปากแบงไหลด้วยความสงบและเต็มไปด้วยมนต์คลัง
ภาพที่ 2 ภูเขา หาดทราย โขดหิน ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศริมน้ำโขงบริเวณเมืองปากแบง
ภาพที่ 3 ชาวบ้านริมฝั่งโขงกำลังหาปลาบริเวณน้ำไหลเชี่ยว
ภาพที่ 4 บรรยากาศเมืองปากแบงยามเช้ากับน้ำโขงที่ไหลอย่าสงบตามวิถี
ภาพที่ 5 เขื่อนปากแปงกำลังก่อสร้าง ซึ่งห่างจากท่าเรือและหมู่บ้านปากแบงประมาณ 9 กม.
ภาพที่ 6 นั่งเรือช้าไปหลวงพระบาง คืออีกหนึ่งเส้นทางของการเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงพระบางของประเทศลาว โดยการเดินทางใช้เวลา 1 คืน 2 วัน นักเดินทางส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติและชาวบ้านริมโขงที่ต้องการสัญจรจากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหนึ่งหมู่บ้าน
ภาพที่ 7 วิวสองข้างทางของการนั่งเรือช้าเป็นกิจกรรมการสร้างเขื่อน ไม่แน่ใจว่าเมื่อสร้างเขื่อนเสร็จ เรือช้าจากเมืองห้วยทรายไปหลวงพระบางยังจะสามารถสัญจรได้อีกไหม
ภาพที่ 8 สะพานรถไฟความเร็วสูงพาดผ่านน้ำโขง เมื่อใกล้ถึงหลวงพระบาง
ภาพที่ 9 ชาวบ้านริมโขงกำลังร่อนหาทองตามวิถีเดิม
ภาพที่ 10 ชาวบ้านริมโขงบริเวณเมืองหลวงพระบาง กำลังดูแลผักที่ปลูกไว้ริมแม่น้ำ
ภาพที่ 11 อำลาสายน้ำและผู้คนริมโขง สายน้ำโดนหั่นอีกครั้ง ผู้คนยังคงดำเนินชีวิตตราบที่อยู่ วิถีของสิ่งมีชีวิตและสายน้ำจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
ผู้เขียน
พัชริดา ภักดิ์ดี
ผู้เข้าร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ Shutter Stories: เล่าภาพย่านเก่าในความทรงจำผ่านเลนส์มานุษยวิทยา ปี 2567