ต่อเนื่องจากโครงการประกวดหนังสั้นทักษะวัฒนธรรมสำหรับเยาวชน “ขัดกันฉันมิตร” ปีที่ 1 (2560) เยาวชนได้มีโอกาสทำความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม สำรวจอคติ และภาพเหมารวมที่ส่งผลต่อ ทัศนคติในเชิงลบและการเลือกปฏิบัติที่มีต่อคนที่แตกต่าง รวมทั้งเรียนรู้ผลกระทบของสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่นับถือศาสนาต่างกัน ทำให้เปลี่ยนมุมมอง หรือทัศนะด้านลบบางอย่างที่เคยมี และเสริมทักษะให้เยาวชนทั้งด้านทักษะวัฒนธรรมและด้านการสื่อสารสาธารณะ มีส่วนร่วมในการสื่อสารมุมมองของเยาวชนต่อสาธารณะในประเด็นทักษะวัฒนธรรมและการอยู่ร่วมกับความขัดแย้งในภาคใต้ ผ่านกระบวนการการทำหนังสั้น ซึ่งโครงการประกวดฯ ในปีที่ 2 นี้ ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรภาคี ได้แก่ ศูนย์ข่าวสารสันติภาพ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สหภาพยุโรป (EU) ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) (ศมส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS)
ในยุคก่อนของประเทศบาห์เรนมีหลักฐานว่ามีการทำอาชีพประมง เนื่องจากมีการขุดค้นพบกระดูกปลาจำนวนมากจากแหล่งโบราณคดีชื่อ Qala'at al Bahrain ซึ่งมีการทำการประมงแบบเก่าแก่ที่เรียกว่า "haddrah" หรือ "Gargour" ซึ่งยังมีการทำประมงแบบนี้อยู่จนถึงวันนี้ให้เป็นข้อมูลในการศึกษาได้ ในพื้นที่ชายฝั่งของเกาะยังคงมีการหาปลาแบบ "haddrah" ยังพบกับดักปลาขนาดใหญ่ยาวประมาณ 200-400 เมตร สำหรับดักปลาที่มากับน้ำขึ้นครั้นนำลงปลาเหล่านั้นก็จะมาติดค้างอยู่เมื่อลด ลง ชนิดของปลาที่จับได้ส่วนใหญ่เป็นปลา emperors, snappers และ rabbitfish เหมือนกับชนิดของปลาที่ระบุไว้ในข้อมูลทางโบราณคดีในสหัสวรรษที่ 4 และกับดักเหล่านี้ค่อยๆถูกยกเลิกไปตั้งแต่ระบบนิเวศชายฝั่งทะเลถูกทำลาย ทำให้ผลผลิตลดลงของการประมง การหาปลาแบบการใช้ "Gargour" ซึ่งเป็นที่ดักปลาคล้ายหม้อใบใหญ่สูง 1-2.50 เมตรถูกใช้มากขึ้น การประมงเหล่านี้อยู่บริเวณประมาณ 50 กิโลเมตรนอกชายฝั่ง Gargour ใช้วางในน้ำตื้นปลาที่จับได้ยังเป็นชนิดเดียวกัน ปลาที่ขายในตลาดก็มาจากการประมงแบบ Gargour เป็นส่วนใหญ่ พบว่าการประมงแบบนี้เป็นมรดกแบบดั้งเดิมที่ใกล้สูญหายไปจึงเป็นเรื่องเร่ง ด่วนที่จะต้องจัดเก็บเป็นข้อมูลไว้
Patrice Fava ซึ่งเป็นนักมานุษยวิทยาและเป็นผู้สร้างภาพยนตร์เองด้วย ได้เดินทางไปยังชนบทของประเทศจีนที่ซึ่งยังคงมีประเพณีส่วนใหญ่สืบทอดมาจาก ลัทธิเต๋าซึ่งมีอิทธิพลต่อชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งอธิบายให้เห็นถึงชีวิตสบายๆในพุทธศาสนาและลัทธิเต๋าในแถบเทือกเขา Huangshan ยังคงใช้ดำเนินชีวิตด้วยการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีซึ่งแบบแผนการดำเนินชีวิต เหมือนย้อนกลับไปยังศตวรรษที่สิบสี่ ยังมีการแสดงหุ่นกระบอกโบราณ การประดิษฐ์ตัวอักษรของบทกวี การทำก๋วยเตี๋ยวงดงาม งานเทศกาลของครีษมายันมีการแข่งเรือและกลอนสดร้องเพลงแข่งขันในจังหวัดที่หู หนาน การทำประมง การวาดภาพวาด ตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับยาในเมืองเฉิงตู ตลาดนกในกรุงปักกิ่ง ศิลปะการต่อสู้ต่างๆที่เราเห็นในตอนเช้าในสวนสาธารณะและถนนของเซี่ยงไฮ้
ภาพยนตร์เรื่อง Resistance เรื่องนี้เป็นภาค 2 เป็นการรวมคอลเลกชันของหนังการทดลองและผลงานวิดีโออาร์ตจากตะวันออกกลางและ แอฟริกาเหนือ โดย 9 ศิลปินจากหลากหลายภูมิหลังทางวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ เรื่องราวเหล่านี้เป็นการแสดงออกของแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีความซับซ้อนของพลังและความหลากหลายของพลังงานความคิดสร้างสรรค์ อันนำมาจากภาพลักษณ์ปกติ, ศิลปินมีจุดมุ่งหมายเพื่อสำรวจปัญหาที่มีอยู่ การเมืองและความงามของเวลาของเราในขณะที่การบรรยายใช้มุมมองใหม่ๆที่แตกกับ จากภาพที่น่าเบื่อและซ้ำ ๆ
การเดินทางของ Korrigane ในย่านแถบใต้ทะเลระหว่างปี (1934-1936) คือการเดินทางที่เป็นตำนานของห้าชายหนุ่มที่มีฐานะ พวกเขามีความกระตือรือร้นที่จะค้นหาความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อโลกสมัยใหม่ พวกเขาเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ชุดสุดท้ายที่ได้เดินทางไปยังดินแดนที่ยังไม่ได้ มีการสำรวจและได้ค้นพบทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากกว่า 2,500 ชิ้น และมันได้ถูกจัดแสดงได้อย่างดีในพิพิธภัณฑ์ L'Homme กรุงปารีสที่เปิดขึ้นในปี 1938 ส่วนที่เหลืออีก 800 ชิ้น ถูกจัดเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Quai Branly ต่อมา Jean - Paul Fargier ผู้สร้างภาพยนตร์ พร้อมด้วย Christian Coiffier นักชาติพันธุ์วิทยาได้ออกเดินตามรอยตำนานเดิมในปี 2005 ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างยาก พวกเขาได้ย้อนให้กลับไปเห็นลูกหลานของศิลปินและช่างฝีมือชาวปาปวนที่ผลิตงาน ขายให้กับเยาวชนฝรั่งเศส กาลเวลาไม่ได้ทำให้เขาลืมเลือนผลงานที่เป็นศิลปะ มันยังคงดำเนินต่อไป และยังคงซ่อนความหมายอยู่ในชิ้นงานต่อไป
ในโลกนี้มีพื้นที่ที่วิกฤตจากการสู้รบมากมาย พื้นที่เหล่านั้นล้อมรอบด้วยความทุกข์ทรมานการเสียชีวิตความรุนแรงและความ วุ่นวาย ช่างภาพชื่อ James Nachtwey ได้ออกค้นหาและบันทึกภาพที่เขาต้องการเผยแพร่ให้สาธารณชนได้ทราบ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของช่างภาพชาวอเมริกันที่ชื่อ James Nachtwey ได้เห็นแรงจูงใจในการและการทำงานและการเป็นช่างภาพสงครามโดย ผู้อำนวยการและผู้ผลิต Christian Frei ได้ติดตามการทำงานของ James Nachtwey ในช่วงเวลาสองปีในสงครามที่ประเทศอินโดนีเซีย, โคโซโว, ปาเลสไตน์ เป็นต้น Christian Frei ได้ใช้กล้องขนาดเล็กพิเศษแนบไปกับกล้องถ่ายภาพของ James Nachtwey เราจึงได้เห็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงกำลังมองหามุมถ่ายภาพที่สำคัญๆ ได้ยินเสียงลมหายใจของช่างภาพทุกขณะ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์เกี่ยวกับช่างภาพ ที่ได้มีการใช้เทคนิคนี้โดยได้รับอนุญาตจากช่างภาพเพื่อให้มีความเข้าใจใน การทำงานจริงของนักข่าวและช่างภาพที่เกี่ยวข้อง
Nina Davenport เปลี่ยนมุมมองของบันทึกการเดินทาง ให้มาจากภายใน เธอพาเราไปยังประเทศอินเดีย และปล่อยเราไว้ที่นั่น ปล่อยให้เราเชื่อในสิ่งที่เราเห็นจากสายตาของเธอ ภาพยนตร์ของเธอจำลองประสบการณ์การเป็นนักเดินทาง และพวกถ้ำมอง โดยไม่จำเป็นต้องเข้าใจความหมายของสิ่งที่เห็นเสมอไป
Nina Davenport turns the conventions of the travelogue inside out. She takes us to India and abandons us there, leaving us to believe what we see through her eyes. Her movie replicates the experience of being a traveller and thus a voyeur, of taking in sights without necessarily understanding their meaning.
การเฉิมฉลองของชน Konyak Naga ประกอบด้วยพิธีกรรมหลายพิธี เด็กชายจะเคลื่อนขบวนไปยังบ้านของคนหนุ่ม การซ่อมแซมเครื่องประกอบพิธี และในส่วนสุดท้ายแสดงการเต้นรำการล่าหัว
This celebration of the Konyak Naga includes the rites of the boy as they move to the young men’s house, the repair of festival decorations, and finally the headhunting dances itself.
ภาพยนตร์แสดงขั้นตอนการทำร่มด้วยกระดาษสา โดยเริ่มตั้งแต่การสร้างเนื้อเยื่อกระดาษ การทำแผ่นกระดาษ โครงสร้างของร่ม การประกอบแผ่นกระดาษเข้ากับโครงร่ม การลงสีพื้น เก็บชิ้นงาน และการตกแต่งด้วยการวาดลวดลาย
The film shows the steps of the mulberry paper umbrellas making. It begins with tissue fabrication; then the craftsmen make paper sheets. Meanwhile the others build the umbrella frames. They attach the prepared paper to the frame; following this the rough painting is done. The details like sewing the decorations and opening mechanics were completed. Flower motifs were drawn at the end.
การเต้นรำเกิดขึ้นรอบต้นไม้สีเขียว การเต้นรำของฝ่ายหญิงจะจัดเป็นสองแถวโดยอยู่ในวงด้านใน ในขณะที่ฝ่ายชายจะอยู่วงรอบนอก นักดนตรีที่เล่นเครื่องเป่าและเครื่องสายจะสลับกันเป็นผู้นำในการเต้นรำ การเต้นจะเริ่มในทิศทางไปตามเข็มนาฬิกา และเปลี่ยนเป็นทวนเข็มนาฬิกาสลับกันไปมาจนเสร็จ
The dance is performed around a green tree stuck in the ground. The girls dance in a double-row in an inner circle, whilst the men form a chain as the outer circle. A reed organ player and a lute player take turns in leading the dance. The dance starts in a clockwise direction, changes then, and continues in an anti-clockwise direction up to the end.
ภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่าหมากพลูจัดเตรียมอย่างไร โดยมีใบพลู หมากชิ้นเล็ก มะนาว และยาเส้น
The film shows how betel is prepared and then chewed. It is made out of the leaf of the betel-vine, small pieces of areaca nut, lime and tobacco.