“โมเยอโฏนตา”

 |  ศาสนา ประเพณี พิธีกรรม
ผู้เข้าชม : 1960

“โมเยอโฏนตา”

[1]

อุณหภูมิเมษายน

หฤโหดจนหนาวเสียดกระดูก

หยาดน้ำที่ชุ่มใบหน้า

มิอาจช่วยให้มือที่ลูบปาดแห้งกร้านน้อยลง

หยดเหงื่อและน้ำตา

ท่วมตัวโทรมกายไร้ฤดูกาล
 

กดปุ่มเบอร์สามก่อนทิ้งทอดกาย

ในระดับความเย็นที่เท่ากับเบอร์หนึ่ง

ใบพัดไร้ตะแกรงส่ายหน้าโครงเครงไปมาวันละยี่สิบสี่ชั่วโมง

เชื่องช้าสวนทางกับค่าไฟ

โลกของบางใครร้อนเกินกว่าจะใช้ชีวิต
 

“โมเยอพลึงโกนเจา ...”

ฝ้ายขาวในมือของหญิงชรา

ผูกแขนรับขวัญแขกในบ้านของตัวเอง
 

[2]

ฝนห่าแรก

ปลุกกลิ่นไอดินต้นฤดูฟุ้งสู่หัวใจ

หอมกลิ่นของชีวิต
 

ข้างจานข้าวหอมมะลิหุงร้อนๆ

หญิงชรามือสั่นเทา

ประคองวางแจ่วปลาร้าและยอดผักริมรั้ว

ปีนี้โคเสี่ยงทายกินน้ำ หญ้า เหล้า

เด็กสาวตอบคำถามยาย
 

ความหวังของชาวนา

อยู่กับนัยน์ตาของพระโค
 

[3]

ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6

เครื่องเซ่นไหว้ถูกนำมารวมกันทั้งหมู่บ้าน

บั้งไฟก้านมะพร้าวเปลี่ยนลานริมหนองน้ำเป็นสนามเด็กเล่น

ศาลปู่ตาใต้ร่มไทรใหญ่

กลิ่นธูป กลิ่นน้ำมนต์เคล้าคละฟะฟุ้ง

ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวในหัวใจเด็ก ๆ
 

“โมเยอโฏนตา”

แม่เฒ่าเรียกผีปู่ย่ามารับเครื่องเซ่นไหว้

ผู้เฒ่าพรมน้ำมนต์จากขันในมือ

ควันธูปลอยอ้อยอิ่งผ่านลำแสงเช้าที่โรยสายลงมาผ่านต้นไทร
 

“โมเยอโฏนตา

ออยโกนเจาเจียลออ โมรอซีออยจะแอดเด้อ”

นั่งก้มพนมไหว้กันเต็มลาน

เสียงอื้ออึงต่างกล่าวเชิญ

“โมเยอโฏนตา .. .โมเยอโฎน ... โมเยอ ...”

ความหวังไม่ซ้ำข้อ

คำร้องขอไม่ซ้ำความ
 

ควันธูปไม่ทันดับ

ผู้เฒ่าลาเครื่องเซ่นไหว้

ในเวลาเสี่ยงทาย

ไก่ต้มทั้งตัวถูกส่งกลับหาเจ้าของ

คอไก่ถูกดึงขาดอย่างว่องไว

คำพยากรณ์ซ่อนไว้ในมือ
 

[4]

บั้งไฟเล็กริมหนองน้ำพุ่งทะยาน

เด็กสาวท้ายหมู่บ้านวิ่งมาไม่ทันกลิ่นธูปควันเทียน

การเสี่ยงทายคางไก่เหลือเพียงความเงียบงัน

งอกลับ หักลง สวนทิศทางอย่างไม่เคยเห็น

คนรอฟังใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ

ผู้เฒ่าผู้แก่ส่งต่อกันไป

คนแล้วคนเล่า

ใบหน้าชราเข้มขรึมปนวิตกยกมือไหว้ท่วมหัว

คำบอกกล่าวของผู้เฒ่า

ปู่ตาไม่รับไก่ตัวนี้

จงไปนำไก่ตัวใหม่มาเซ่นไหว้อีกหน

ก่อนพ้นฤกษ์ยาม
 

[5]

“โมเยอโฏนตา ...”

เซ่นไหว้จนอิ่มหนำ ให้ข้าวในนาออกรวงดีมีราคา
 

นานนับหลายปี

หญิงชราบางคนมีเพียงคำขอเดียวซ้ำ ๆ

ค่อย ๆ ลูบหัวไก่ตัวเชื่องของบ้าน
 

[6]

ไม่มีรถไถนาเดินตาม

มีแต่ชาวนาเดินตามรถแทร็กเตอร์

ผืนดินรอบข้างเริ่มงอกงามเขียวขจี

ยังไม่มีวี่แววการหว่านไถของแปลงปลายนา

คิวของคนรอนั้น

ยาวนานทบทวี
 

ฝนห่าสองห่าสามพร่างพรมลงมาตามฤดูกาล

กบเขียดร้องระงมส่งสัญญาณแห่งความหวัง

รีบไถไปไหนเล่า

เห็ดเผาะกิโลละสี่ร้อย

ข้าวหมดนากิโลละสิบบาท

ชาวนาแปลงข้าง ๆ เสียงดังทักท้วง
 

[7]

บนขบวนรถไฟชั้นสามที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองหลวง

เด็กสาวหอบหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้า ตะกร้า และถุงข้าวสาร
 

สร้อยทองสองบาทมรดกเส้นสุดท้าย

หญิงชราควักออกมาพร้อมกับฝ้ายผูกแขน

จากสถานี สู่สถานี

ฝ้ายสีขาวค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเทาเปียกชื้น

หยาดน้ำตาหลั่งไหลไม่เลือกฤดู
 

ในนาไม่มีข้าว

ในเล้าไม่มีไก่สำหรับเดือน 6 ปีหน้า
 

“โมเยอโฏนตา1

โมเยอ


โมเยอ ...”
 

ผู้เขียน
รสสุคนธ์ สารทอง
2 มิถุนายน 2567
ไพรบึง, ศรีสะเกษ


1  โมเยอโฏนตา เป็นคำในภาษาเขมร ใช้ในการเรียกผีปู่ย่ามารับเครื่องเซ่นไหว้ในพิธีเลี้ยงผีปู่ตา ตามความเชื่อของชาวบ้านในแถบอีสานที่ว่า เมื่อทำพิธีเลี้ยงผีปู่ตาดีแล้ว ผีปู่ตาหรือผีบรรพบุรุษก็จะคอยปกป้องความคุ้มครองลูกหลานและคนในหมู่บ้านให้ร่มเย็นเป็นสุข รวมไปถึงบันดาลพรต่าง ๆ ตามคำขอของผู้ที่มาเซ่นไหว้


 

ป้ายกำกับ รสสุคนธ์ สารทอง โมเยอโฏนตา กวีนิพนธ์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Share
Facebook Messenger Icon คลิกที่นี่เพื่อสนทนา