ศมส. เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมอบรม “โครงส่งเสริมศักยภาพผู้นำทักษะวัฒนธรรม รุ่นที่ 3”
1. รับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมอบรมหลักสูตรส่งเสริมศักยภาพผู้นำทักษะวัฒนธรรม รุ่นที่ 3
2. การรับสมัคร เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ – 7 กุมภาพันธ์ 2568 (รับจำนวนจำกัด) สมัครได้ 2 ช่องทาง (เลือกสมัครช่องทางใดช่องทางหนึ่ง)
1. กรอกข้อมูลส่วนบุคคลในใบสมัคร รูปแบบ file word ส่งใบสมัครที่ Email: nichapa.i@sac.or.th
2. กรอกข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์ รูปแบบ Google Form ตาม QR Code หรือลิงก์ด้านล่าง
3. ความสำคัญของโครงการ
โครงการส่งเสริมศักยภาพผู้นำทักษะวัฒนธรรม มุ่งสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับคนรุ่นใหม่ (คนแถวสอง) ที่กำลังจะก้าวเป็นผู้นำในอนาคต ให้ “คิดกว้าง มองไกล เข้าใจโลก” ด้วยวิธีการเพิ่มพูนความแวดไวทางวัฒนธรรม สร้างความตระนักรู้ในความหลากหลาย การเท่าทันต่ออคติทางวัฒนธรรม สามารถเผชิญหน้ากับวัฒนธรรมที่แตกต่างได้อย่างสร้างสรรค์ และใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นหัวใจสำคัญในการก้าวข้ามความขัดแย้ง รวมไปถึงการติดตั้งทักษะการเชื่อมประสานการดำเนินงานกับผู้อื่นให้เป็นเครือข่ายปฏิบัติการ อันเป็นทักษะแห่งอนาคตที่สำคัญที่มีอิทธิพลต่อวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติงานในสังคมที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
4. แนวคิดโครงการ
1. กระบวนทัศน์ใหม่ (New Paradigm) การเข้าใจโลกด้วยมุมมองใหม่เห็นความซับซ้อน ความเชื่อมโยงของปัญหา เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการเมือง
2. ภาวะผู้นำแบบใหม่ (New Leadership) สามารถทำงานบนความแตกต่างหลากหลาย และขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมในหลายระดับได้
3. ทักษะใหม่ (New Skills) ที่เข้าใจมิติทางวัฒนธรรม สามารถใช้ทุนและพลังทางวัฒนธรรม สร้างสรรค์สังคมที่เท่าเทียมและเท่าทันอคติ เรียนรู้และเปิดรับสิ่งใหม่ เพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้กับสังคม
5. วัตถุประสงค์
1. เพื่อสร้างและจุดประกายให้ผู้นำรุ่นใหม่มี “ทักษะวัฒนธรรม” สร้างสรรค์สังคมที่ยอมรับความแตกต่าง ใช้ความคิดสร้างสรรค์ก้าวข้ามความขัดแย้ง
2. เพื่อสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายผู้นำทักษะวัฒนธรรม ที่เอื้อต่อการดำเนินงานส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรม
3. เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมการเรียนรู้ ส่งเสริมความเข้าใจความหลากหลาย เท่าทันอคติ และการคุ้มครองสิทธิวัฒนธรรม
6. คุณลักษณะผู้นำทักษะวัฒนธรรม
1. ความตระหนักรู้ (awareness) ต้องเข้าใจว่าสังคมมีความหลากหลาย มีความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน และมีความขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องไม่นำไปสู่ความรุนแรง
2. ความเคยชิน (habit) ต้องเข้าใจและสร้างความเคยชินต่อพหุวัฒนธรรม และเข้าใจว่าความสัมพันธ์ของมนุษย์มี ทั้งขัดแย้งและสมานฉันท์
3. ความสามารถ (ability) ต้องเปิดพื้นที่ให้กับคนที่แตกต่าง ไม่วางตนเองเป็นศูนย์กลางและเรียนรู้ที่จะ สื่อสารกับผู้คนที่หลากหลาย
7. รูปแบบหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้
เน้นกระบวนการเรียนรู้ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการแลกเปลี่ยน และการเรียนรู้จากประสบการณ์ระหว่างผู้เข้าร่วม พื้นที่ภาคสนาม และผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับกระบวนทัศน์ให้เปิดกว้าง และเป็นการเชื่อมโยงเครือข่าย กระบวนการทำงาน การคิด วิเคราะห์ และแสดงความเห็น ซึ่งมีรูปแบบการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการ (workshop) ตลอดหลักสูตรระยะเวลา 5 เดือน แบ่งออกเป็น 5 Module (4 วัน 3 คืน ต่อ 1 module) โดยมีหัวข้อการเรียนรู้ ดังนี้
Module ที่ 1: “วัฒนธรรม” การทบทวน เท่าทัน และตั้งคำถามต่อความหมายของวัฒนธรรม วันอบรม ณ จ.เชียงใหม่ - จ.ลำพูน วันที่ 27 – 30 มีนาคม 2568
Module ที่ 2: “อำนาจ” ความหลากหลายของปฏิบัติการของอำนาจและการต่อต้านขัดขืน วันอบรม ณ จ.กาญจนบุรี สังขละบุรี วันที่ 15 – 18 พฤษภาคม 2568
Module ที่ 3: “อคติ” การเข้าใจความหลากหลาย เท่าทันอคติ ความขัดแย้ง และความรุนแรง วันอบรม ณ กรุงเทพฯ วันที่ 26 – 29 มิถุนายน 2568
Module ที่ 4: “ทักษะ” การเสริมทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานทางวัฒนธรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลง วันอบรม ณ จ.พังงา วันที่ 24 – 27 กรกฎาคม 2568
Module ที่ 5: “ปฏิบัติการ” เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง การกำหนดแนวทางแผนงานโครงการและความร่วมมือเพื่อยกระดับการทำงาน วันอบรม ณ จ.อุบลราชธานี วันที่ 28 – 31 สิงหาคม 2568
8. ประโยชน์ที่จะได้รับ
1. มีสมรรถนะทางวัฒนธรรม (culture learning enabler) ที่เข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรม สามารถเผชิญหน้ากับวัฒนธรรมที่แตกต่างได้อย่างสร้างสรรค์ และใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นหัวใจสำคัญในการก้าวข้ามความขัดแย้ง
2. มีทักษะแห่งอนาคต (future skills) อันเป็นทักษะที่เกี่ยวข้องกับการปรับกระบวนทัศน์ การเสริมสภาวะความเป็นผู้นำ และการเสริมความว่องไวทางวัฒนธรรม ให้มีสำนึกที่หลากหลายสามารถทำงานในสังคมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้
3. มีทักษะเชื่อมประสานเครือข่าย ในการปฏิบัติงานเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรม
9. กลุ่มเป้าหมาย
1. ภาคการสื่อสาร นักสร้างคอนเทนต์ (Content Creator) ผู้สร้างสรรค์และผลิตเนื้อหา บนสื่อ ด้วยวิธีการทอดเนื้อหาผ่านตัวหนังสือ รูปภาพ วิดีโอ หรืออินโฟกราฟิกต่าง ๆ
2. ภาคประชาชน NGO ด้านวัฒนธรรม เครือข่ายชุมชนชาติพันธุ์ เครือข่ายชุมชนท้องถิ่น เครือข่ายพิพิธภัณฑ์ เครือข่าย LGBTQ+ เป็นต้น
3. ภาครัฐ ข้าราชการผู้บริหารระดับต้น หัวหน้าส่วน หัวหน้า/ผู้จัดการฝ่าย และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล ท้องถิ่น และท้องที่ เป็นต้น
4. ภาควิชาการ นักวิชาการที่ทำงานขับเคลื่อนประเด็นทางสังคม/ชุมชน เครือข่ายครู/อาจารย์ที่สามารถนำประเด็นเรื่องการลดอคติ สังคมพหุวัฒนธรรม และการพัฒนา บูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนได้ เป็นต้น
5. องค์กรระหว่างประเทศ
10. คุณสมบัติ
1. มีประสบการณ์ทำงานในประเด็นทางวัฒนธรรม 3 ปีขึ้นไป มีอายุ 30 – 45 ปี โดยจะพิจารณาจากความหลากหลายทั้งประสบการณ์ทำงาน ช่วงอายุ ความสามารถเฉพาะ และวิชาชีพ
2. เป็นผู้มีผลงานเชิงประจักษ์และหรือเป็นผู้ปฏิบัติที่มีบทบาทนำ ที่มีพื้นที่ทำงานหรือมีส่วนร่วมในทำงานทางสังคม อันมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนวาระทางสังคม เคารพต่อความหลากหลาย และเท่าทันอคติทางวัฒนธรรม
3. มีความมุ่งมั่นและหรือสามารถทำงานในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนวาระทางสังคมได้ในระยะยาว
4. มีความรู้และเท่าทันสถานการณ์ทางสังคม มีความหยึดหยุ่นในการปฏิบัติงานและมีความสามารถในการสร้างเครือข่ายการทำงาน
11. กระบวนการพิจารณาผู้เข้าร่วมโครงการ
1. เมือปิดรับสมัคร ศูนย์ฯ ดำเนินการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่ผ่านหลักเกณฑ์ เสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการหลักสูตรโครงการส่งเสริมศักยภาพผู้นำทักษะวัฒนธรรม
2. คณะกรรมการอำนวยการฯ ตรวจสอบและพิจารณาเลือกสรรผู้ที่มีคุณสมบัติผ่านหลักเกณฑ์ตามบัญชีรายชื่อ
3. ประกาศผลการคัดเลือกผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
4. ปฐมนิเทศผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ วันที่ 7 มีนาคม 2568
5. เริ่มอบรมผู้นำทักษะวัฒนธรรม รุ่นที่ 3 Module 1 วันที่ 27 – 30 มีนาคม 2568
12. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
คุณนิชาภา อินทะอุด (แนน) เบอร์โทร 02-880-9429 ต่อ 3813 / 099-119-2925
13. QR Code ในโปสเตอร์ให้มี QR Code 3 อัน ประกอบด้วย ดังนี้
1. โครงการผู้นำ
2. ช่องทางการสมัครผ่าน Google Form
3. ใบสมัครเข้าร่วมอบรม
ฝ่ายสื่อสารสังคมและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)