เปิดรับการอภิปรายเป็นกลุ่ม (Call for Panel) การประชุมวิชาการมานุษยวิทยา 68

 |  ข่าวประชาสัมพันธ์
ผู้เข้าชม : 645

เปิดรับการอภิปรายเป็นกลุ่ม (Call for Panel) การประชุมวิชาการมานุษยวิทยา 68

เปิดรับการอภิปรายเป็นกลุ่ม (Call for Panel)

การประชุมวิชาการมานุษยวิทยา 68

หัวข้อ พหุปฏิสัมพันธ์: มนุษย์กับสิ่งไม่ใช่มนุษย์ (Interactive Pluralism: Human-Nonhuman)

วันที่ 7-9 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)

 

           โลกที่ดำรงอยู่ เปลี่ยนแปลง และเหลื่อมซ้อนกันของมนุษย์และสิ่งไม่ใช่มนุษย์ เป็นความท้าทายต่อการพัฒนาและแก้ไขชีวิตให้ดีขึ้นในบริบทที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและโลก การตระหนักถึงการมีอยู่ของสิ่งอื่นทั้งวัตถุ สภาพแวดล้อม และสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่น จำเป็นต้องเห็นปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อทบทวนตรวจสอบสถานะและการกระทำของมนุษย์ที่มีต่อสิ่งอื่น ขณะเดียวกันเพื่อตั้งคำถามว่าปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นนั้นวางอยู่บนโลกทัศน์และระบอบอำนาจแบบไหน มนุษย์สามารถตัดสินใจในเชิงศีลธรรมที่ปรากฏอยู่ในความสัมพันธ์ที่หลากหลายได้อย่างไร ภายใต้การพัฒนาของรัฐและแนวโน้มของการผูกขาดเชิงเศรษฐกิจและการเมืองในระดับโลก มนุษย์กระทำต่อสิ่งไม่ใช่มนุษย์ในรูปแบบใด ผลกระทบจากการกระทำนั้นเป็นอย่างไร ใครและสิ่งใดบ้างที่เป็นกลไกของการสร้าง รื้อทำลาย และฟื้นฟูโลก

           การประชุมวิชาการมานุษยวิทยา 68 ขอเชิญนักวิชาการที่สนใจส่งข้อเสนอการอภิปรายกลุ่มที่สอดคล้องกับหัวข้อการประชุม โดยมีประเด็นย่อยที่เกี่ยวข้องต่อไปนี้

           1) การซึมผ่านและการบรรจบกันของมนุษย์กับสิ่งอื่น (permeability & intersectionality)  อภิปรายเกี่ยวกับประสบการณ์ ปฏิบัติการ ปฏิสัมพันธ์ที่มนุษย์มีต่อสิ่งอื่นที่มิใช่มนุษย์ และทำให้เกิดการสลายเส้นแบ่ง และความคลุมเครือของสิ่งที่เชื่อมต่อ ซึมผ่าน และบรรจบกัน ทำให้เกิดสภาวะที่ต่างไปจากบรรทัดฐานที่คุ้นชิน ทำให้เห็นการสถาปนาความจริงแบบใหม่

           2) ข้อสงสัยและความคลุมเครือเกี่ยวกับ autonomy และ agency  อภิปรายให้เห็นความผันผวนปรวนแปร และความไม่คงที่ของตัวตนของผู้กระทำการ ความหมายและคุณค่าเกี่ยวกับอำนาจในตัวของมนุษย์และสิ่งไม่ใช่มนุษย์ที่ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบที่เคยชื่อถือกันมา รวมถึงการมีตัวตนในรูปแบบใหม่ที่ไม่มีฟอร์มที่ชัดเจน

           3) การแปรสภาพและความรีบเร่งของเทคโนโลยี (transformation & immediacy)  อภิปรายให้เห็นพลังอำนาจของดิจิทัล, ปัญญาประดิษฐ์, เทคโนลยีอัจฉริยะ ที่ถูกใช้ในพรมแดนสังคม และกลายเป็นความแปลกแยก ความเร่งรีบ ความปั่นป่วนวุ่นวาย ความไร้ระเบียบ ทำให้เกิดความเพ้อฝัน จินตนาการ และการตกเป็นเหยื่อในเวลาเดียวกัน

           4) ปฏิสัมพันธ์กับความรับผิดชอบ (accountability)  อภิปรายให้เห็นว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งไม่ใช่มนุษย์ ทำให้เห็นรูปแบบเชิงศีลธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบ และความขัดแย้งที่เปลี่ยนไป มนุษย์มิได้เป็นผู้กำหนดความถูกต้องดีงาม แต่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขที่ซับซ้อนที่มนุษย์กระทำต่อสิ่งอื่น เช่น ระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม ฯลฯ

           5) การสูญเสียการควบคุม (lost control)  อภิปรายให้เห็นว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งไม่ใช่มนุษย์ มีความไม่เท่าเทียมเชิงอำนาจเกิดขึ้น และอำนาจแอบแฝงและอำพรางตนเองอยู่ในกลไกที่ซับซ้อนของการเมือง เศรษฐกิจ และการพัฒนา รวมถึงมนุษย์มิใช่ผู้ควบคุมโลกทางวัตถุอีกต่อไป แต่สิ่งที่มิใช่มนุษย์กลายเป็นผู้กระทำที่มีบทบาทสำคัญต่อการดำรงอยู่ของสังคมและโลก เช่น ภัยพิบัติ และโรคอุบัติใหม่

           6) ความเปราะบางและความอ่อนแอ (fragility and vulnerability)  อภิปรายเกี่ยวกับมิติอารมณ์ ผัสสะ และสุนทรียะที่เกิดขึ้นในปฏิสัมพันธ์และการหลอมรวมระหว่างมนุษย์และสิ่งไม่ใช่มนุษย์ ชี้ให้เห็นตัวละครใหม่ ๆ ที่สร้างความอ่อนไหว ความเปราะบาง และความอ่อนแอให้กับรูปแบบของการมีชีวิตที่ต่างไปจากเดิม


เงื่อนไขและข้อปฏิบัติ

           1. ผู้เสนอหัวข้ออภิปรายส่งข้อเสนอการอภิปรายกลุ่มตามแบบฟอร์มที่กำหนด

           2. ผู้เสนอหัวข้ออภิปรายเป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้อภิปรายในกลุ่มกับศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) เมื่อหัวข้ออภิปรายได้รับการคัดเลือก

           3. ผู้เสนอหัวข้ออภิปรายอธิบายความสอดคล้องของหัวข้ออภิปรายกลุ่มกับหัวข้อการประชุม

           4. กลุ่มอภิปรายต้องเขียนสาระสังเขปของหัวข้ออภิปรายกลุ่มประมาณ 8-10 บรรทัด

           5. กลุ่มอภิปรายมีผู้อภิปรายไม่เกิน 3 คน มีผู้ดำเนินรายการ 1 คน

           6. ผู้อภิปรายแต่ละคนต้องมีประเด็นของตนเองโดยสอดคล้องกับหัวข้ออภิปรายกลุ่ม

           7. ผู้อภิปรายต้องเขียนสาระสังเขป อธิบายประเด็นที่จะอภิปรายประมาณ 4-5 บรรทัด

           8. ผู้อภิปรายมีเวลานำเสนอคนละประมาณ 20-30 นาที

           9. ผู้อภิปรายต้องเขียนสรุปเนื้อหาของการอภิปรายความยาวประมาณ 2-3 หน้ากระดาษ ขนาด A4 เมื่อหัวข้ออภิปรายได้รับการคัดเลือก

           10. ผู้อภิปรายต้องเป็นนักวิชาการไทยหรือนักวิชาการต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย

           11. ผู้อภิปรายหนึ่งคนสามารถร่วมอภิปรายกลุ่มได้ 1 หัวข้อเท่านั้น

           12. กลุ่มอภิปรายที่ได้รับคัดเลือกจะต้องยืนยันเข้าร่วมการประชุมภายในเดือนพฤษภาคม 2568


ระยะเวลาการส่งข้อเสนอของ Panel ตั้งแต่เดือนวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568

ประกาศรายชื่อหัวข้อและผู้ได้รับการคัดเลือก ภายในเดือนมีนาคม 2568

ส่งข้อเสนอมาที่อีเมล whisut.v@sac.or.th (วิสุทธิ์ เวชวราภรณ์)

สอบถามรายละเอียด โทร. 02 880 9429 ต่อ 3807 (นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ) ในเวลาราชการ

Share
Facebook Messenger Icon คลิกที่นี่เพื่อสนทนา