เผยแพร่ 01 ส.ค. 2563
ชาวนามธารีเป็นคำเรียกของชาวซิกข์กลุ่มหนึ่งนับถือนิกายนามธารีอันเป็นนิกายหนึ่งใน 10 กว่านิกายของศาสนาซิกข์ โดยคำว่า “นามธารี” แปลว่า ผู้ซึ่งเทิดทูนธำรงค์รักษาให้ทรงไว้ซึ่งพระนามของพระผู้เป็นเจ้า หรือผู้ยึดมั่นในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า (“นาม” หมายถึง พระนามของพระผู้เป็นเจ้า ส่วน “ธารี” หมายถึงการธำรงค์รักษา)
ส่วนใหญ่ชาวนามธารีที่อพยพเข้ามาในไทยจะประกอบอาชีพกลุ่มพ่อค้าตั้งถิ่นฐานกระจายในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ลําปาง เชียงราย ศาสถานของชาวนามธารีมี 2 แห่ง คือ บริเวณสี่แยกอโศก สุขุมวิท กรุงเทพฯ และบริเวณถนนช้างม่อยใกล้กับตลาดวโรรส ในจังหวัดเชียงใหม่
ชาวนามธารีเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาล้วนต้องได้รับการศึกษาวิชาต่างๆ จากครูบาอาจารย์เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ในเรื่องของการดำเนินชีวิต และการแสวงหาหนทางสู่ความหลุดพ้น ล้วนแล้วแต่ต้องมีครูผู้นำทางชีวิตทั้งสิ้น ศาสนิกชนชาวซิกข์-นามธารีทุกคนในฐานะ “ศิษย์” จึงต้องมี “ครู” เพื่อชี้นำแนะแนวเส้นทางการดำเนินชีวิตให้ถึงจุดหมายเสมอตลอดอายุขัย และการเข้าถึงพระผู้เป็นเจ้าจะสำเร็จได้ก็ย่อมต้องผ่านทาง “คุรุ” หรือองค์พระศาสดาผู้เทิดทูน และยึดมั่นในพระนามของพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น
คู่มือแนะนำทรัพยากรสารสนเทศกลุ่มชาติพันธุ์นามธารีในครั้งนี้ จะให้ความสำคัญกับรายการทรัพยากรสารสนเทศที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์นามธารีที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย รวมทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิต ประเพณี ความเชื่อและความศรัทธาในศาสนาของกลุ่มชาติพันธุ์นามธารีอันนำไปสู่แนวปฏิบัติของชาวนามธารี
เรียงลำดับข้อมูลจากใหม่ไปเก่า | เรียงลำดับข้อมูลจากเก่าไปใหม่
Title
Author
สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11
Imprint
กรุงเทพฯ : สถานี, [25?]
Collection
Audio Visual Materials :VT 000195
Url ห้องสมุด ศมส.
Annotation
มชนชาวไทยซิกข์อาศัยอยู่ในประเทศไทยมาแล้วกว่า 111 ปี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยเข้ามาครั้งแรกเพื่อการค้าขาย จากนั้นจึงมีการชักชวนญาติพี่น้องให้เข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย ชุมชนชาวซิกข์เป็นชุมชนที่ยังคงยึดมั่นในความเชื่อดั้งเดิมและมีวิถีชีวิตที่สงบเรียบง่าย ในทุกเช้าและเย็นชาวซิกข์มักจะมารวมตัวกันที่คุรุดวาราสถานเพื่อสวดมนต์เป็นประจำ คุรุดวาราสถานเป็นสถานที่เก็บคัมภีร์ที่ถือว่าเป็นตัวแทนพระศาสดา ศาสนาซิกข์ไม่มีนักบวช มีเพียงผู้ประกอบพิธีสวดประจำวันเท่านั้น โดยแบ่งเป็นศาสนจารย์ผู้อธิบายคำสอนและผู้นำสวดภาวนา นอกจากไม่มีนักบวชแล้ว ศาสนาซิกข์ยังไม่มีรูปเคารพอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ชาวซิกข์ได้ยึดถือในพระคัมภีร์และคำสอนของพระศาสดาเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องวัฒนธรรม ประเพณี พิธีกรรม การแต่งกาย อาหาร และธรรมเนียมปฏิบัติอื่นๆ ที่ชาวซิกข์ต่างยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา เพื่อธำรงไว้ซึ่งคำสอนของพระศาสดา
Author
ศิวัช ศรีโภคางกุล
Imprint
กรุงเทพฯ : illuminations editions, 2562
Collection
Books (7th floor) (Book chapter) BL80.2 .ศ652 2562
Url ห้องสมุด ศมส.
Annotation
บทความนี้กล่าวถึงชาวซิกข์ในประเทศอินเดียกับประวัติศาสตร์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทั้งในฐานะที่เป็นเหยื่อและผู้ก่อความรุนแรง ผ่านเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ผู้เขียนได้พยายามศึกษาและประมวลผลปฏิบัติการต่อสู้อย่างสันติวิธีโดยยึดตามหลักความเชื่อทางศาสนาของชาวซิกข์ โดยเลือกปฏิบัติการครั้งสำคัญ 5 เหตุการณ์เพื่ออธิบายปรากฏการณ์นี้ ได้แก่ หลักการไม่ให้ความร่วมมือ หลักการปฏิรูปกฎเกณฑ์สังคม หลักการบริจาคเลือดเพื่อแก้แค้น หลักการปฏิเสธการใช้ความรุนแรง และการร่วมมือปฏิสังขรณ์มัสยิดเพื่อใช้สวดมนต์ร่วมกับศาสนาอิสลาม
Author
อภิรัฐ คำวัง
Imprint
นครปฐม : ศูนย์ภารตะศึกษา สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล, 2559
Collection
Books (7th floor) BL2020.ซ6 อ46 2559
Url ห้องสมุด ศมส.
Annotation
หนังสือรวมบทความวิชาการนี้ มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสังคมวัฒนธรรมของชาวไทยซิกข์และศาสนาซิกข์ในสังคมไทย โดยบทความทั้ง 6 เรื่องภายในเล่มครอบคลุมเนื้อหาใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ด้านประวัติศาสตร์และการตั้งถิ่นฐาน ด้านปรัชญาศาสนาซึ่งศึกษาใน 2 ด้าน คือ การบริการรับใช้สังคมและพิธีมงคลสมรส ประเด็นสุดท้ายคือเรื่องเกี่ยวกับสังคมวัฒนธรรมของชาวไทยซิกข์โดยศึกษาเรื่องภาษาปัญจาบในสังคมไทยซิกข์ในปัจจุบัน หนังสือเล่มนี้จึงถือได้ว่าช่วยทำหน้าที่เป็นตำราให้แก่นักวิชาการและนักศึกษา ทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่สนใจในสังคมวัฒนธรรมของชาวไทยซิกข์อีกด้วย
Author
อภิรัฐ คำวัง
Imprint
นครปฐม : สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล, 2559
Collection
Books (7th floor) (Book chapter) HM62.ท9 ก642 2559
Url ห้องสมุด ศมส.
Annotation
การศึกษานี้มุ่งเน้นทำความใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ย้ายถิ่นฐานมาจากรัฐปัญจาบ ประเทศอินเดียในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยส่วนใหญ่คือชาวซิกข์ ซึ่งถือเป็นชาวไทยอินเดียกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศไทยในปัจจุบัน ชาวไทยซิกข์ที่อยู่อาศัยและทำการค้าในกรุงเทพมหานครได้สร้างคุรุดวาราขึ้นในย่านพาหุรัดเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจและถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของชาวไทยซิกข์ในประเทศไทย ผู้เขียนได้ศึกษาพัฒนาการของย่านพาหุรัดในมิติสังคมพหุลักษณ์และพหุวัฒนธรรม โดยศึกษาควบคู่กับกลุ่มชาติพันธุ์อื่นที่มาจากประเทศอินเดีย รวมทั้งได้ศึกษาการปรับตัวและความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยซิกข์กับกลุ่มชาติพันธุ์อื่นในพาหุรัดด้วย
Author
อภิรัฐ คำวัง
Imprint
-
Collection
วารสารมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. ปีที่ 12, ฉบับที่ 1 (ม.ค.-เม.ย. 2558), หน้า 45-57
Url ห้องสมุด ศมส.
Annotation
บทความนี้นำเสนอเรื่องภาษาปัญจาบ ซึ่งเป็นภาษาที่ชาวซิกข์ใช้เพื่อสื่อสารในชีวิตประจำวันและเพื่อศึกษาพระธรรมตามหลักศาสนา ในปัจจุบันชาวซิกข์รุ่นใหม่เริ่มให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารมากขึ้น มีการสื่อสารภาษาปัญจาบน้อยลง ส่งผลกระทบต่อกระบวนการถ่ายทอดภาษาปัญจาบและการสืบทอดหลักศาสนาซิกข์สู่คนรุ่นหลัง จากการเก็บข้อมูลในพื้นที่ 13 จังหวัดที่ชาวซิกข์ตั้งถิ่นฐาน โดยมีกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่หลัก พบว่าความสามารถทางภาษาปัญจาบของชาวไทยซิกข์มีความแตกต่างกันมาก โดยพิจารณาได้จากช่วงวัยของชาวไทยซิกข์และระบบการศึกษาที่ได้รับ
อ่านต่อ...ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 โทร. 0-2880-9429 ต่อ 3702
แฟ็กซ์ 0-2434-6254 อีเมล์ library@sac.or.th
Facebook : ห้องสมุดศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร-Sac library |
Line@ : @sac-library หรือคลิกเพื่อ Add Line http://line.me/ti/p/~@SAC-Library |
ห้องสมุด (ชั้น 8)
จันทร์ - ศุกร์ : 8:30 – 16:30 น.
เสาร์ : 9:00 – 16:00 น.
ห้องสมุดสุข กาย ใจ
จันทร์ - ศุกร์ : 8:00 – 18:00 น.
เสาร์ : 8:00 – 17:00 น.
หยุดวันนักขัตฤกษ์และวันหยุดตามประกาศราชการ